วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เทคโนโลยี Web 2 คืออะไร

คุณเคยเล่นเน็ต หรือ อินเตอร์เน็ต หรือไหม ?
มาทราบความหมายกัน :
อินเตอร์เน็ต คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกัน ซึ่งการเชื่อมต่อนั้น เปรียบเสมือนกับใยแมงมุม โดยจุดตัดของใยแมงมุมจะเสมือนเป็นคอมพิวเตอร์แต่ละตัวที่โยงใยกันเป็นเครือข่าย ซึ่งการเชื่อมต่อบนอินเตอร์เน็ตนั้นจะใช้มาตรฐานการเชื่อมต่อที่เรียกว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) โดย Transmission Control Protocol จะเป็นโพรโตคอลที่ใช้ใน การส่งผ่านข้อมูลบนสายต่างๆเช่น สายโทรศัพท์ สายวงจรพิเศษ หรือไร้สายและ Internet Protocol ก็คือโพรโตคอลที่ใช้ในการสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต และด้วยโพรโตคอล TCP/IP นี้เองทำให้อินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทั้งโลกนี้พูดภาษเดียวกันก็คือ TCP/IP นั่นเอง
เว็บเพจ(Web Page) คือ หน้าเว็บแต่ละหน้าที่ประกอบไปด้วยข้อมูล รูปภาพ เสียง และวิดีโอ โดยเป็นข้อมูลแบบสื่อผสมหรือมัลติมีเดีย ในเว็บไซต์หนึ่งจะมีเว็บเพจหลายๆ หน้า เปรียบเสมือนกับหน้าหนังสือในหนึ่งเล่มที่ถูกแบ่งเป็นหน้าๆ ส่วนจะมีกี่หน้านั้นก็จะขึ้นอยู่กับเนื้อหาของแต่ละเว็บไซต์นั้นเว็บเพจ (Web Page)
โฮมเพจ (Home Page) คือ เว็บเพจหน้าแรกสุดของข้อมูลในเว็บไซต์หนึ่งเว็บไซต์ เมื่อเราเปิดเว็บไซต์ขึ้นมาแล้วก็จะปรากฏเป็นหน้าเว็บเพจ เว็บเพจหน้าแรกนี้เราจะเรียกว่า โฮมเพจ โดยจะมีลิงค์ไปยังเว็บเพจหน้าต่างๆ ทั้งในเว็บไซต์เดียวกันและก็ต่างเว็บไซต์ได้ด้วย
เว็บไซต์ (Web Site) คือ เป็นแหล่งเก็บข้อมูลเว็บเพจหลายๆ เว็บเพจ แล้วรวบรวมเว็บเพจเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อจัดตั้งขึ้นเป็นเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์นั้นจะต้องมีรหัสหรือชื่อโดเมน (Domain Name) ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารเพื่อการเชื่อมโยงเข้าหาเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต
ครับทุกคนทราบแล้ว Web คืออะไร คุณเคยเขียนวิจารณ์หนังสักเรื่องลงใน กล่องข้อความส่วนตัวของคุณหรือเปล่า , หรืออาจจะเคยอ่านคำแนะนำการเลือกซื้อครีมบำรุงผิวยี่ห้อดังจาก กล่องข้อความ ของคนที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้, แชร์คลิปวีดีโอที่ทำเองให้คนอื่นได้เข้ามาดู และออกความคิดเห็นรวมทั้งดาวน์โหลดไปเก็บได้ , เข้าไปวิจารณ์เรื่องสั้นของนักเขียนสมัครเล่นในกระทู้ , สมัครรับข่าวสารสินค้าโปรโมชั่นลด ราคา จากห้างสรรพสินค้าเจ้าประจำผ่านระบบ RSS ฯลฯ หากคุณตอบว่าใช่เพียงข้อใดข้อหนึ่งจากทั้งหมด นั่นละ คุณกำลังสัมผัสเทคโนโลยี Web 2.0 อยู่ทีเดียวเชียว อย่างที่กล่าวข้างต้น Web 2.0 เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา โดยที่หลายๆ คนยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป แล้ว Web 2.0 มันแตกต่างจาก Web 1.0 ยังไงล่ะ ? นั่นคือคำถามที่ตามมา ข้อข้องใจเหล่านี้ ภาษาที่นักเขียนโปรแกรมอัจฉริยะก็ไม่อาจอธิบายให้คนธรรมดาอย่างเราๆเข้าใจได้ มิฉะนั้นเราคงใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในโลกนี้กันอย่างไม่มีปัญหาไปแล้วละ จริงไหม ? ดังนั้น จึงขออธิบายออกมาเป็นภาษาที่มนุษย์เดินดินกินข้าวแกงฟังรู้เรื่องก็แล้วกัน ความแตกต่างระหว่าง Web 1.0 และ Web 2.0 ข้อแรก Web1.0 แก้ไขอัพเดตข้อมูลต่างๆในหน้าเว็บได้เฉพาะ Webmaster หรือคนดูแลเว็บไซต์เท่านั้นแต่ Web2.0 สามารถสื่อสารตอบโต้ได้ทั้งผู้สร้างเว็บและผู้ใช้เว็บ ดังเช่น Blog หรือการโพสต์กระทู้ต่างๆ ข้อ 2 Web 1.0 สร้างเรตติ้งแบบปากต่อปากได้ยาก เนื่องจากสื่อสารทางเดียวแต่ Web 2.0 สามารถสร้างปรากฏการณ์แบบปากต่อปากได้ดังไฟลามทุ่ง จากการแนะนำผ่าน Blog ส่วนตัว คุณอาจตัดสินใจซื้อครีมชนิดนั้นมาใช้เพราะคนที่ใช้แล้วดีมาเขียนบอกใน Blog หรือเลิกซื้อขนมปังยี่ห้อนั้นไปตลอดชีวิต เมื่อมีคนถ่ายภาพราขึ้นแฮมจากร้านนั้นมาลงให้ดู ซึ่งเป็นสิ่งที่ Web 1.0 ไม่อาจทำได้ข้อ 3 Web 1.0 ให้ข้อมูลความรู้แบบตายตัว การเปลี่ยนแปลงแก้ไขขึ้นอยู่กับ Webmaster แต่ Web 2.0 สามารถต่อยอดข้อมูลต่างๆออกไปได้ไม่จำกัด และข้อมูลจะถูกตรวจสอบคัดกรองอยู่ตลอด ตัวอย่างเช่น blog.mthai.com , blog.hunsa.com ,blog.sanook.com ที่ใครก็สามารถเขียนในสิ่งที่ตนรู้ลงไปได้Web 2.0 ยังก่อให้เกิดการตลาดแบบใหม่ สร้างงาน สร้างธุรกิจเงินล้านบนอินเตอร์เน็ต ก่อให้เกิดนักธุรกิจในโลกออนไลน์มากมาย ถึงตรงนี้ หลายคนคงเข้าใจเจ้า Web 2.0 กันดีขึ้นแล้ว เพราะแท้ที่จริง มันก็อยู่ตรงหน้าของเราทุกวันนี่เองนัยของมันก็คือ ถ้าเป็น web1.0 เวลาเราจะหาโฆษณาเราก็ต้องไปเลือกสปอนเซอร์ ส่งฝ่ายขายไปดูแล แล้วพอได้แบนเนอร์ขึ้นมาแล้ว ก็ต้องรอให้คนคลิก เก็บเงินตามเพจวิวที่คนเข้าชม หรือตามที่คลิก แต่สำหรับ web2.0 ในรูปแบบของ Google AdSense แล้ว เว็บไหนอยากได้โฆษณาก็เข้าไปที่กูเกิ้ล เลือกตัวที่เชื่อมโยงกับเนื้อหานั้นๆ ใส่ซอฟต์แวร์แล้วก็รอรับเงินเมื่อลูกค้าเข้าไปดู ใครอยากรู้เป็นไงโดยละเอียดผมว่า เข้าไปดูที่ Google ได้เลย ซึ่งวิธีหาเงินแบบนี้อาจเป็นแนวใหม่ที่ต่อไประบบโฆษณาอาจเปลี่ยนมาใช้แบบนี้
ผมว่าความหมายของมันจากเว็บที่ทำมากินกันแบบธุรกิจสุดๆ ความหมายของมันเริ่มเปลี่ยนโดยนัยของมันก็คือ Community หรือ Social มากขึ้นนั่นเอง ทิศทางนี้มาแรง และได้รับความนิยมแล้วในอเมริกาที่เป็นเจ้าของทฤษฎี เว็บไซต์ใหญ่ๆ ของโลก หรือธุรกิจไหนที่อยากเชื่อมโยงกับอินเทอร์เน็ต บางแห่งออกมาประกาศเลยว่าจะเข้าเทคโอเวอร์เว็บที่เกี่ยวกับเรื่องนี้เข้าในสังกัดให้มากที่สุด เราเลยเห็นบางเว็บเพิ่งเปิดบริการมาไม่นานก็ถูกซื้อไปเข้าสังกัดใหญ่เสียแล้ว ตัวอย่างยังมีให้เห็นอีกเยอะ แต่ที่ตั้งเป็นข้อสังเกตก็คือ เมื่อแนวทางธุรกิจไม่ได้อยู่ที่การขายตัว content ด้วยการ Subscribe หรือการขายโฆษณาด้วยการสร้าง Banner แต่กลายมาเป็นการให้บริการทางสังคม การเก็บค่าหัวคิวบางอย่าง ดังนั้นความคิดใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญและท้าทายมากกว่าการเดินตามก้นคนอื่นเหมือนอย่างที่ผ่านมา งานนี้น่าสนุกและน่าติดตามทั้งกระแสโลก และกระแสในเมืองไทยว่า web2.0 จะแจ้งเกิดในเมืองไทยได้จริงหรือไม่
1. " network as platform " คือจะต้องให้บริการหรือสามารถใช้งานผ่านทาง " web browser " ได้
2. ผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของข้อมูลบน " website " นั้น สามารถดำเนินการใดๆ ก็ได้กับข้อมูลนั้น
3. โครงสร้างของการมีส่วนร่วมและความเป็นอิสระนั้นจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้เพิ่มคุณค่าให้กับ " website " หรือ " application" นั้น กล่าวคือ การมีส่วนร่วมและความเป็นอิสระจะทำให้มีการใช้งานมาก ทำให้สิ่งนั้นมีคุณค่าน่าสนใจ
4. ใช้ ajax ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความฉลาดมีการโต้ตอบกับผู้ใช้และมี interfaceที่ง่ายในการใช้งาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น